GM NEWS : กสทช. เตรียมถอดกฎ “มัสต์แฮฟ” หลังจบฟุตบอลโลก 2022

กสทช. เตรียมถอดกฎ "มัสต์แฮฟ" หลังจบฟุตบอลโลก 2022

      จากการที่กฎ มัสต์แฮฟ (Must Have)  ส่งผลในการซื้อสิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์  ที่จะแข่งขันระหว่างวันที่ 20 พ.ย.-18 ธ.ค.นี้ ทำให้ไม่มีภาคเอกชนกล้าลงทุนและรัฐบาลต้องหาเงินไปซื้อลิขสิทธิ์ให้คนไทยได้ดูของฟรี และล่าสุด กสทช. อนุมัติเงินสนับสนุนจากกองทุนวิจัย และพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือกกท. เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ภายในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตามต้องหาเพิ่มจากเอกชนอีก 1,000 ล้านบาทเพื่อทำการซื้อลิขสิทธิ์เวิลด์ คัพ ในครั้งนี้

โดยเรื่องนี้ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า “กสทช. จะมีการปรับปรุงกฎดังกล่าวแน่นอน (กฎมัสต์แฮฟ) ตอนที่คณะกรรมการชุดเก่าออกกฎนี้มา รูปแบบ แพลตฟอร์ม ยังไม่เยอะเท่าปัจจุบัน ตอนนั้นแค่ต้องการให้คนไทยได้รับชมกีฬาดีๆ จึงตั้งเป็น Must Have และอยากให้เข้าถึงทุกคนดูได้ทุกแพลตฟอร์ม จึงเป็น Must Carry แต่ตอนนี้มันทำให้ลำบากต่อการทำธุรกิจ ทางบอร์ด กสทช. ก็ตั้งใจจะปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะมองว่าไม่ใช่หน้าที่ กสทช. ที่ต้องมาออกเงินทุกๆ 4 ปีแบบนี้ แต่เมื่อกฎที่สร้างไว้เป็นปัญหา ก็ปรับแก้ไข”

“ปกติ กสทช. กำกับดูแลผู้ประกอบการ ผู้บริโภค และตลาด ซึ่งกีฬา 6 ชนิดเป็นสินค้าทั่วไป แต่ฟุตบอลโลกเป็นสินค้าเฉพาะ การมีภาครัฐเข้าไปแบบนี้มันทำให้ราคาตลาดปั่นป่วน เอกชนเองติดข้อกฎหมายก็ไม่สามารถลงทุนได้ ทำให้ไม่มีคนซื้อลิขสิทธิ์”

“เท่าที่คุยมาคือ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ สามารถใช้เงินได้ต่อเมื่อมีนักกีฬาไทยไปแข่งขัน ดังนั้น 6 ประเภทหลัก ซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชียนเกมส์, เอเชียนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์ และพาราลิมปิกเกมส์ มีนักกีฬาไทยไปแข่งแน่นอน”

“ส่วนฟุตบอลโลกตอนนี้ ยังไม่มีทีมชาติไทยไปแข่งขันก็ยกเลิกไปก่อน ในอนาคตถ้ามีก็ค่อยนำกลับเข้ามาได้ หรือจะออกเป็นข้อยกเว้นต่างๆ หรือยกเลิก Must Carry ไม่ต้องถ่ายทุกแพลตฟอร์มก็ได้ อยู่ที่การพูดคุยในตอนออกกฎใหม่ อย่างไรก็ตามต้องมีการทำประชาพิจารณ์ก่อน ดังนั้นสามารถรับฟังข้อเสนอจากประชาชนได้ ค่อยนำมาปรับแก้ไขกันต่อไป” 

สำหรับ กฎ มัสต์แฮฟ (Must Have) หรือ หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สําคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะทางฟรีทีวี ประกาศนี้ออกมาปี 2555 หรือปี 2012 ก่อนฟุตบอลโลก 2014 โดยออกมาเพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงเนื้อหารายการโทรทัศน์ได้อย่างเท่าเทียม โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.  ระบุว่า 7 มหกรรมกีฬาที่คนไทยต้องดูฟรี ประกอบด้วย กีฬาซีเกมส์, อาเซียนพาราเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์, เอเชี่ยนพาราเกมส์, โอลิมปิกเกมส์, พาราลิมปิกเกมส์ และฟุตบอลโลก 

สนับสนุนโดย Line : @Gamemun