GM NEWS : เอ็มบัปเป้ เบิ้ล ฝรั่งเศส ชนะ เดนมาร์ก ทะลุรอบ 16 ทีมฟุตบอลโลก 2022 เมื่อวานนี้ 22:26

เอ็มบัปเป้ เบิ้ล ฝรั่งเศส ชนะ เดนมาร์ก ทะลุรอบ 16 ทีมฟุตบอลโลก 2022 เมื่อวานนี้ 22:26

     ดิดิเยร์ เดสช็องส์ พาฝรั่งเศสชนะ ออสเตรเลีย  4-1 ในนัดแรก เกมนี้ไม่มี เตโอ เอร์นานเดซ ลงมาแทน ลูกัส เอร์นานเดซ  พี่ชายที่เจ็บเอ็นไขว้หน้าขาดจากเกมแรก แนวรุก อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์  และ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ยืนเป็นสามประสานอยู่ด้านหลัง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ 

ทางฝั่งเดนมาร์ก เสมอ ตูนิเซีย  0-0  มาในเกมแรก โดยไม่มี โธมัส เดลานี่ย์ ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกหลังเจ็บที่เข่า ในเกมดังกล่าว กองหน้าใช้  อันเดรส คอร์เนลิอุส ยืนหน้าเป้า โดยมี เยสเปอร์ ลินด์สตรอม,  มิคเคล ดัมสการ์ด คอยสนับสนุน 

นาทีที่ 21 ฝรั่งเศส แชมป์เก่า มีลุ้นขึ้นนำ อุสมัน เดมเบเล่ เปิดจากทางขวามาให้ อาเดรียง ราบิโอต์  ได้โหม่ง แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ยังบินเซฟเอาไว้ได้ 

เกมผ่านหนึ่งชั่วโมงแรก เดนมาร์ก ไม่มีโอกาสบุกเข้าไปสู่พื้นที่สุดท้ายได้เลย  ขณะที่ ฝรั่งเศส แม้มีโอกาสต่อเนื่องแต่ยังเปลี่ยนเป็นสกอร์นำไม่ได้ 

นาทีที่ 33 แคสเปอร์ ชไมเคิล ต้องมาใช้เท้าเซฟลูกยิงของฝรั่งเศส อีกครั้ง 

จบครึ่งแรก 5 นาที อุสมัน เดมเบเล่ เปิดคัทแบ็กมาให้ คีเลียน เอ็มปัปเป้ ได้ยิงแต่ข้ามคานออกไปเยอะ  45 นาทีแรก สกอร์ยังเสมอ 0-0 

กลับมาครึ่งหลัง ช่วง 5 นาทีแรกเกมเป็นของเดนมาร์ก แต่ก็ยังไม่มีทีเด็ดทีขาดในจังหวะสุดท้าย

ฝรั่งเศส มีโอกาสในนาทีทรี่ 57 คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ พลิกหนี โยอัคคิม อันเดอร์เซ่น และพาเข้าไปในกรอบก่อนได้ยิงเน้นๆ แต่  แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ยังปัดออกไปได้ 

อีก 3 นาทีต่อมา อองตวน กรีซมันน์ ได้โฉบบอลไปยิงแต่จังหวะสุดท้าย ยิงด้วยซ้ายข้ามคานไปอย่างน่าผิดหวัง

นาทีที่ 61 ฝรั่งเศส ขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จ เป็นจังหวะที่  คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ให้บอลไปที่ เตโอ เอร์นานเดซ ก่อนที่ เตโอ จะตบขึ้นมาให้   เอ็มบัปเป้ ทำประตูที่ 30 ในนามทีมชาติ

นาทีที่ 68 จากจังหวะเตะมุม โยอัคคิม อันเดอร์เซ่น โหม่งเช็ดต่อมาให้ อันเดรียส คริสเตนเซ่น โขกให้ เดนมาร์ก ตีเสมอ 1-1

นาทีที่ 73 เดนมาร์ก ยังแซงนำไม่ได้เมื่อ เยสเปอร์ ลินด์สตรอม ยิงจ่อๆ ไปติดเซฟ อูโก้ โยริส

นาทีที่ 81 เดนมาร์ก น่าจะได้ประตูที่ 2 แต่ มาร์ติน แบรทเวต ยิงหลุดเสาไปนิดเดียวเท่านั้น

นาทีที่ 86 ฝรั่งเศส มาได้ประตูชัย จาก คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้  คนเดิมที่ใช้หน้าขาชนบอลจ่อๆ จากจังหวะที่อองตวน กรีซมันน์ ครอสมาให้ นอกจากนี้ยังเป็นประตูที่ 14 ใน 12 เกม ที่ทำให้กับทีมชาติฝรั่งเศส

ช่วงเวลาที่เหลือ เดนมาร์ก พยายามลุยเพื่อหวังได้ทวงประตูตีเสมออีกครั้ง แต่ไม่สามารถทำได้ จบเกม ฝรั่งเศส เฉือนชนะ 2-1 เก็บ 6 แต้มเต็มผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว ส่วน เดนมาร์ก ยังคงมีเพียงแต้มเดียวต้องไปลุ้นเกมสุดท้าย

สำหรับนัดสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม ฝรั่งเศส จะพบ ตูนิเซีย ในวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน ขณะที่ เดนมาร์ก จะพบ ออสเตรเลีย ในวันเดียวกัน ซึ่งจะแข่งพร้อมกันเวลา 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย

รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม

ฝรั่งเศส (4-2-3-1) :

อูโก้ โยริส – ฌูลส์ คุนเด้, ราฟาแอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ เอร์นานเดซ – โอเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์ – อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์ ,คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ –  โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ 

เดนมาร์ก (3-4-2-1) :  แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – โยอัคคิม อันเดอร์เซ่น, วิคเตอร์ นีลส์สัน, อันเดรียส คริสเตนเซ่น -ราสมุส คริสเตนเซ่น,  ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก,  คริสเตียน เอริคเซ่น, โยอาคิม เมห์เล่  – เยสเปอร์ ลินด์สตรอม,  มิคเคล ดัมสการ์ด- อันเดรส คอร์เนลิอุส 

สนับสนุนโดย Line : @Gamemun